
เป็นหนี้ อยากปลดหนี้ไม่ต้องกังวล เพราะตอนนี้เรามีทางให้ทุก ๆ คนที่นี่ กับโครงการไกล่เกลี่ยหนี้เพื่อปลดบัตรเครดิต และสินเชื่อบุคคลภายใต้การกำกับดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นโครงการที่จะมาช่วยให้ทุกท่านที่เป็นหนี้ ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทย และกรมบังคับคดีได้เข้ามาดำเนินการแบ่งเบาภาระให้แก่ลูกหนี้ในช่วงโควิด 19 ดังนั้น อยากปลดหนี้ ไม่ว่าจะปลดหนี้บัตรเครดิตหรือสินเชื่อบุคคล ต้องห้ามพลาดโครงการนี้
ซึ่งในครั้งนี้ เราได้รวบรวมข้อมูลและรายละเอียดมาให้ทุกท่านที่นี่ เพื่อศึกษารายละเอียดของโครงการไกล่เกลี่ยหนี้ ซึ่งมีใครที่สามารถเข้าร่วมโครงการปลดหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลนี้ได้บ้าง และมีรายละเอียดอย่างไร กับบทความ โครงการไกล่เกลี่ยหนี้คนมีหนี้ต้องรู้ สินเชื่อบุคคล บัตรเครดิต อยากปลดหนี้ 2566 จะมาช่วยให้คุณได้รับรายละเอียดทั้งหมด ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
ลิงก์ผู้สนับสนุน
Table of Contents
มหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้ บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล
วิกฤติการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด – 19 และมาตรการป้องกันการแพร่ระบาด ส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องและมีนัยสำคัญ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการประกอบอาชีพ และการหารายได้ของประชาชน ซึ่งปรับลดลงเป็นวงกว้าง ในขณะที่ภาระหนี้ที่ต้องจ่ายยังคงมีอยู่เหมือนเดิม ดังนั้น เพื่อเลี่ยงไม่ให้เกิดการผิดนัดชำระหนี้ กระบวนการไกล่เกลี่ยให้เจ้าหนี้ปรับโครงสร้างหนี้ให้ลูกหนี้ เพื่อให้ค่างวดที่ต้องจ่ายสอดคล้องกับรายได้ที่ลดลงจึงเป็นเรื่องที่มีความสำคัญมากต่อเศรษฐกิจไทยในระยะต่อไป และเป็นการช่วยเหลือให้มีโอกาสในการปลดหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคลได้มากยิ่งขึ้น
อยากไกล่เกลี่ย ใครเข้าร่วมได้บ้าง
สำหรับการเข้าร่วมโครงการไกล่เกลี่ยหนี้รูปแบบใหม่นี้ ประชาชนที่สามารถเข้าร่วมได้ จะต้องเป็นประชาชนที่เป็นหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล ไม่ว่าจะมีสถานะบัญชีปกติ หรือมีการค้างชำระ โดยสามารถเป็นหนี้ที่ยังไม่มีการฟ้องร้อง หรือหนี้ที่มีคำพิพากษาไปแล้ว ก็สามารถเข้าร่วมโครงการ และใช้ช่องทางของมหกรรมไกล่เกลี่ยครั้งนี้เพื่อปลดหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลได้ โดยโครงการจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ ถึง 14 เมษายน 2566 นี้ ซึ่งตามโครงการมีการแบ่งลูกหนี้ออกเป็น 3 ประเภท ดังนี้
ลูกหนี้สถานะยังเป็นหนี้ดี
การไกล่เกลี่ยหนี้สำหรับลูกหนี้กลุ่มนี้สามารถครอบคลุมหนี้ทุกรูปแบบ โดยเริ่มต้นตั้งแต่ลูกหนี้ที่ยังมีสถานะบัญชีการกู้ปกติ หรือหนี้ดี โดยสามารถจ่ายในอัตราขั้นต่ำ แต่เริ่มขาดสภาพคล่อง เพราะดอกเบี้ยสูง และมีแนวโน้วว่าจะไม่สามรถผ่อนชำระหรือปลดหนี้บัตรเครดิตได้แน่ ๆ โดยสามารถขอเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ย จาก 16% ต่อปี มาเป็นอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าที่ 12% ซึ่งจะสามารถชำระหนี้ได้ตามปกติ ตัวอย่างเช่น อยากปลดหนี้บัตร 1 แสนบาท ถ้าผ่อนขั้นต่ำปีแรกเฉลี่ย 5,000 บาท รวม 84 งวดจึงจะสามารถปลดหนี้บัตรเครดิตได้ ในขณะที่สินเชื่อผ่อนรายเดือนเฉลี่ยงวดละ 3,000 บาท นาน 40 งวดเท่านั้น สำหรับบัตรกดเงินสดก็เปลี่ยนเป็นหนี้ที่มีระยะเวลาผ่อนนาน 4 ปีที่อัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 22% นอกจากนี้ สินเชื่อส่วนบุคคล ประเภทผ่อนรายเดือนที่มีดอกเบี้ยสูงถึง 25% สามารถขอลดดอกเบี้ยลงเหลือ 22% และลดค่างวดลงได้มากถึง 30%
ลูกหนี้สถานะหนี้เป็นหนี้เสีย NPL ที่ยังไม่ถูกฟ้องหรือถูกฟ้องแล้ว
สำหรับลูกหนี้ประเภทนี้ สามารถใช้ช่องทางและเข้าร่วมโครงการคลินิกแก้หนี้ได้ โดยธนาคารแห่งประเทศไทยได้ดำเนินการลงนามในบันทึกความร่วมมือกับสำนักงานศาลยุติธรรม ซึ่งสามารถใช้วิธีการไกล่เกลี่ยกับทางศาล และพร้อมเข้าสู่การเข้าร่วมโครงการคลินิกแก้หนี้ ของทางธนาคารแห่งประเทศไทยได้ในทันที ซึ่งจะยิ่งช่วยให้ลูกหนี้สามารถดำเนินการปลดหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล ซึ่งผ่อนได้นานถึง 10ปี
ยิ่งไปกว่านั้น จากการดำเนินโครงการไกล่เกลี่ยหนี้ ถือว่าเป็นข่าวดีสำหรับลูกหนี้กลุ่มนี้ ล่าสุดคลินิกแก้หนี้ได้ปรับเกณฑ์คุณสมบัติของผู้เข้าร่วมโครงการจากเดิมที่จะต้องเป็นหนี้ NPL ก่อน 1 กรกฎาคม 2563 เป็น NPL ก่อน 1 กุมภาพันธ์ 2566 เพื่อให้สามารถรองรับลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบในช่วงวิกฤติโควิด – 19 ซึ่งศาลได้ให้ความอนุเคราะห์อำนวยความสะดวกทางเลือกสำหรับลูกหนี้นี้ ให้สามารถเข้าสู่ระบบไกล่เกลี่ยผ่านช่องทางออนไลน์ของศาล (ระบบ CIOS) โดยหากตกลงกันได้ ลูกหนี้สามารถเลือกไปลงลายมือชื่อในบันทึกข้อตกลงได้ที่ศาลยุติธรรมทั่วประเทศ โดยมีศาลที่นำระบบดังกล่าวไปใช้แล้วกว่า 232 แห่ง
ลูกหนี้ NPL ที่มีคำพิพากษาบังคับคดีแล้ว
แท้จริงแล้วลูกหนี้กลุ่มนี้ คือ เป้าหมายที่แท้จริงของการดำเนินโครงการไกล่เกลี่ยหนี้ในครั้งนี้ เพราะมีข้อจำกัดในการเข้าร่วมโรงการคลินิกแก้หนี้ ซึ่งโดยปกติ เมื่อมีการดำเนินการมาถึงขั้นตอนนี้ เจ้าหน้าที่มักจะปฏิเสธการเจารจา ซึ่งเป็นเรื่องดีต่อลูกหนี้ที่ สถาบันการเงินทั้ง 22 แห่งต่างเห็นความยากลำบากและพร้อมที่จะเข้าร่วมโครงการ และเจรจาไกล่เกลี่ย เพื่อเปิดโอกาสให้ลูกหนี้สามารถปลดหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อต่าง ๆ ได้สะดวกยิ่งขึ้น
การปรับรูปแบบการไกล่เกลี่ยหนี้ อยากปลดหนี้ ต้องทราบ
เพื่อให้ลูกหนี้สามารถที่จะปลดหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ลูกหนี้ที่อยากปลดหนี้และเข้าร่วมโครงการไกล่เกลี่ย สามารถเข้าลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ ของสำนักงานศาลยุติธรรม กรมบังคับคดี หรือศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน และธนาคารแห่งประเทศไทย